เมนู

ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา อยํ ปญฺโห อันว่าปริศนานี้ พระผู้เป็นเจ้าช่างแก้ไข
ให้แจ่มแจ้งมิให้เคลือบแคลงสงสัย คหณํ กตฺวา บรรดาจะให้จนอยู่ พระผู้เป็นเจ้ากระทำ
ให้เคลื่อนคลายหายไป มิอาจให้จนได้กลับแก้ไขให้วิเศษ พหุวิเธน การเณน ด้วยเหตุมีประการ
ต่าง ๆ ชักอุปมาเปรียบปรายพร้อมด้วยอรรถาธิบายบทอักษรวิจิตรบวรเป็นอันดี อนฺธกาโร
บรรดาพระศาสนาจะมืดมนลับแล้ว อาโลโก กโต พระผู้เป็นเจ้าก็กระทำให้ผ่องแผ่วสว่าง
คณฺฑิภินฺนา ทำลายล้างเสียซึ่งคำปรับปวาทอันฟั่นเผื่อ เลิศเหลือในการปรีชา ชินปุตฺตานํ
จกฺขุ ตยา อุปฺปาทิตํ
พระผู้เป็นเจ้าให้ตาทิพย์บริสุทธิ์ แก่ชิเนนทรบุตรอันจะเกิดมาเมื่อปัจฉิมา
ในกาลบัดนี้
วัตถุคุยหทัสสนปัญหา คำรบ 1 จบเพียงนี้

ตถาคตัสส ผรุสวาจานัตถีติปัญหา ที่ 2


ราชา

สมเด็จบรมกษัตริย์จึงมีพระราชโองการถามอรรถปัญหาสืบไปเล่าว่า ภนฺเต
นาคเสน
สธุสะพระผู้เป็นเจ้าพระนาคเสนผู้ปรีชาชาติพรหมจารีย์รุ่งเรืองในศีล ภาสิตํ เจตํ
ถ้อยคำอันนี้ พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวากล่าวไว้ว่า อาวุโส ดูรกอาวุโส
ตถาคโต สมเด็จพระพุทธองค์เจ้าทรงไว้ซึ่งกายสมาจารและวจีสมาจาร พระกายก็อ่อนน้อม
พระพุทธภาษิตก็อ่อนหวาน สมเด็จพระพิชิตมารจะได้ประพฤติเป็นการกายทุจริตวจีทุจริต
อันหยาบช้าทารุณหาบ่มิได้ ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้ามิได้เป็นกาย-
ทุจริตวจีทุจริต ผู้ใดฟังพระพุทธาภาษิตแล้วอย่างติเตียนนครหา ปุน จ ปรํ ครั้นมาใหม่เล่า
พระธรรมเสนาบดีเจ้ากล่าวว่า ตถาคโต สมเด็จพระตถาคตทศพลเจ้าเมื่อพระสุทินกลันท-
บุตรเสพเมถุนด้วยบุราณทุติยิกานั้น ทรงบัญญัติสิกขาบทปาราชิก เรียกพระสุทินด้วยคำอัน
หยาบช้าว่า โมฆบุรุษ เหตุฉะนี้พระกลันทบุตรได้ฟังผรุสวาทของสมเด็จบรมนาถก็มีจิตสะดุ้ง
อุตตราสหวาดหวั่นนักหนา เดือดร้อนกินแหนงน้ำใจจึงมิอาจได้ซึ่งอริยมรรค นี่แหละคำ
เป็นสองอยู่ฉะนี้ ไม่รู้ที่จะฟังข้างไหน ครั้นจะเชื่อคำภายหลังที่ว่าสมเด็จพระบรมโลกนาถตรัส
ผรุสวาทกับพระสุทินนั้น คำเดิมที่ว่าสมเด็จพระสัพพัญญูเป็นกายสมาจารวจีสมาจารนี้ ก็ผิด
เป็นมิจฉา ครั้นจะเชื่อเอาคำเดิม คำภายหลังจะเป็นมิจฉา อยํ ปญฺโห อันว่าปัญหานี้ อุภโต
โกฏิโก เป็นอุภโตโกฏิ ตฺวานุปฺปตฺโต มาถึงพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจงวิสัชนา ณ กาลบัดนี้